อาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือที่รู้จักกันในชื่อโรค “ไมเกรน” นั้น เป็นโรคที่คนวัยทำงานป่วยเป็นมากที่สุด เนื่องมาจากความเครียดที่สะสม รวมถึงตัวกระตุ้นที่มาจากสภาพแวดล้อมที่เป็นมลภาวะ ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ย่อมรู้ดีว่าอาการปวดหัวไมเกรนนั้นคือที่สุดของความทรมาน

ถึงแม้โรคนี้จะมียาแก้ปวดไว้ช่วยบรรเทาอาการ แต่การทานยาแก้ปวดมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน ซึ่งจะดีกว่านี้ไหมถ้ามีวิธีหลีกเลี่ยงโรคนี้ได้และไม่ต้องทานยา
วันนี้เราจึงมี 3 วิธีป้องกันอาการปวดไมเกรนมานำเสนอ เป็นวิธีที่ไม่ต้องพึ่งหมอและพึ่งยา เป็นวิธีที่ดีต่อร่างกายและห่างไกลอาการปวดหัว

1. ผ่อนคลายวันหยุด : มีมนุษย์เงินเดือนหลายคนที่หอบงานกลับไปทำงานที่บ้านเสาร์อาทิตย์ และถ้ายิ่งมีความเครียดอาการปวดไมเกรนก็จะยิ่งสาหัสกว่าเดิม
คำแนะนำคือ ทำงานประจำให้เสร็จในวันธรรมดา พอวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ขอให้เป็นวันพักผ่อนเต็มที่ ไปเล่นโยคะ ออกกำลังกาย หรือนั่งสมาธิ จะช่วยให้อาการปวดรุนแรงน้อยลง นอกจากนี้ ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก

2. อย่าจ้องคอมพิวเตอร์นาน : ไม่เฉพาะหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่แต่รวมไปถึง โทรทัศน์ โทรศัพท์ ไอแพด หรืออะไรก็ตามที่แสงสีวับๆ น่าเวียนหัวทั้งหลาย เมื่อจ้องนานเข้า จะกระตุ้นการเกิดอาการไมเกรนได้ ศีรษะจะตึงเครียดและปวดร้าวไปทั้งแถบ
คำแนะนำคือ ระหว่างทำงาน เมื่อรู้สึกว่าสายตาเริ่มล้า ให้ลองลุกเดินไปมา ดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย สดชื่น กระปรี้กระเปร่า พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานบ้าง อย่าเอาแต่นั่งจ้องคอมพิวเตอร์หรือกดโทรศัพท์ทั้งวัน

3. รู้ตัวให้ไว : สำหรับคนที่ปวดไมเกรนมักมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้คุณรู้ว่ากำลังจะเกิดอาการดังกล่าว เมื่อใดที่เกิดอาการ
คำแนะนำคือ ให้หลบไปอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ในห้องมืด เงียบสงบ แล้วหลับตาลงผ่อนคลาย อาจเตรียมถุงหรือกระเป๋าน้ำแข็งไว้ข้างๆ เพื่อใช้ประคบที่ศีรษะจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวลงและบรรเทาอาการปวด หรืออาจนั่งสมาธิ หายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ ถ้าใครที่อาการหนัก อาจรับประทานยาที่หมอสั่งให้ เพื่อระงับไม่ให้มีอาการรุนแรงมากจนเกินไป

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า